คลังลุยรีดภาษีที่ดิน100% “แลนด์ลอร์ด” แห่ปลูกกล้วย มะม่วง ”เสนา”ผุดลานจอดรถกลางเมือง
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ทั่วประเทศ หลังเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ลดอัตราการจัดเก็บให้ 90% เพื่อบรรเทาภาระผู้เสียภาษี หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
โดยอัตราภาษีของปี 2565 จะยังคงเก็บในอัตราเดิมของปี 2563-2564 แยกเป็น 1.ที่ดินประกอบเกษตรกรรม จัดเก็บ 0.01 – 0.1% 2. ที่อยู่อาศัยจัดเก็บ 0.02 – 0.1% หากเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาจัดเก็บ 0.03 – 0.1% และสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจัดเก็บ 0.02 – 0.1% และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่น จัดเก็บ 0.02 – 0.1% 3. ที่ดินใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย จัดเก็บ 0.3 – 0.7% และ4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ จัดเก็บ 0.3 – 0.7%
จับตา”อสังหา”เร่งพัฒนา-ระบายสต็อก
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารและรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังจะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2565 ในอัตรา 100% จากเดิมเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จัดเก็บในอัตรา 10% ภาพที่จะเห็นต่อจากนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินเปล่าในมือจะไม่ถือครองไว้เหมือนที่ผ่านมา จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการขนาดเล็กและทยอยพัฒนาเป็นเฟส เพื่อให้ปิดการขายโครงการได้เร็ว เนื่องจากหากปล่อยเป็นที่ดินว่างเปล่าหรือมีสต๊อกที่อยู่อาศัยเกิน 3 ปีต้องเสียภาษีในอัตรา 0.3-0.7% ของมูลค่า
“คาดการณ์ว่าแต่ละปีมีที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จ ยังขายไม่ได้ภายใน 3 ปีทั่วประเทศไม่น่าเกิน 15,000 ยูนิต หรือประมาณ 5% ของหน่วยที่เหลือขายทั้งหมดที่ยังไม่ได้สร้าง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และสร้างเสร็จแต่ยังขายไม่ได้” นายวิชัยกล่าว
“เสนา”เนรมิตที่ติดรถไฟฟ้าเป็นลานจอดรถ
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดภาระภาษที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บริษัทได้นำที่ดินทำเลแนวรถไฟฟ้าประมาณ 10 แปลงถือครองไว้จะครบ 3 ปีในปีนี้ นำมาพัฒนาเป็นที่จอดรถ อาทิ ตลาดพลู เอกมัย สมเด็จเจ้าพระยา บางนา บางโพ สร้างรายได้ระหว่างรอสภาวะเศรษฐกิจและตลาดคอนโดมิเนียมฟื้นตัว
“เร็วๆนี้จะเปิดบริการที่สถานีตลาดพลู เนื้อที่ 5 ไร่ เดิมเราเตรียมจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 60 ชั้น เป็นโครงการร่วมทุนกับทางประเทศญี่ปุ่น ตั้งใจจะให้เป็นแลนด์มาร์กของย่านนี้ แต่ด้วยสภาวะตลาดยังไม่เอื้อจึงชะลอโครงการไว้ก่อน ขณะเดียวกันเร่งระบายสต๊อกคอนโดมิเนียมยังเหลือ 2,000-3,000 ยูนิต มูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท โดยจัดโปรโมชั่นลดราคาให้สามารถปิดการขายได้มากที่สุด เพราะได้รับผลกระทบจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเช่นกัน” ” นางสาวเกษรากล่าว
นางสาวเกษรากล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 น่าจะดีขึ้นกว่าปี 2564 ดูจากผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่กันมากขึ้น ซึ่งเสนามีแผนเปิด 49 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 27,480 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 21 โครงการ มูลค่า 16,905 ล้านบาท และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 28 โครงการ มูลค่า 10,575 ล้านบาท ทั้งนี้ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ แนวโน้มยอดขายในไตรมาสแรกยังไม่เป็นไปตามเป้า คาดว่าอยู่ที่ 70-80%หรือประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท
“ริชี่ เพลซ “ มีภาระสต๊อกคอนโด 6 พันล้าน
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรกของปีนี้ยังไม่ดีแต่ยังไม่เลวร้ายลง ในส่วนของคอนโดมิเนียมกำลังซื้อยังไม่กลับมา ขณะที่ปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาพลังงานที่ส่งผลต่อต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้นและยังมีภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เก็บอัตรา100% ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่มีสต๊อกคงเหลือมาก ซึ่งริชี่ เพลซ ปัจจุบันมีสต็อกคงเหลือประมาณ 6,000 ล้านบาท
“แลนด์ลอร์ด-ตระกูลดัง”แห่ปลูกพืชเกษตร
แหล่งข่าวจากวงการพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแลนด์ลอร์ด ตระกูลดัง มีที่ดินจำนวนมากโดยเฉพาะทำเลใจกลางเมืองที่มีมูลค่าสูง ลงทุนปรับที่ดินรกร้างเป็นเกษตรกรรม เช่น ปลูกกล้วย มะนาว มะม่วง เพื่อให้เข้าเกณฑ์ที่ดินเกษตรกรรม เสียภาษีในอัตราที่ถูกลง รวมถึงติดป้ายประกาศขายและให้เช่า โดยยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง หลังกระทรวงการคลังประกาศชัดจะเก็บภาษีที่ดิน100%
“เจ้าของที่ดินสามารถปลูกพืชเกษตรได้ หากทำตามเกณฑ์ที่กฎหมายระบุไว้ เช่น ปลูกกล้วย 200 ต้นต่อไร่ กระท้อนเปรี้ยว 25 ต้นต่อไร่ มะม่วง 20 ต้นต่อไร่ น้อยหน่า 170 ต้นต่อไร่ ฝรั่ง 45 ต้นต่อไร่ มะนาว 50 ต้นต่อไร่ เป็นต้น”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจพบว่า มีที่ดิน 24 ไร่ ติดถนนรัชดาภิเษกและรถไฟฟ้าMRTสถานีศูนย์วัฒนธรรม หลังเมื่อปี 2562ได้ปลูกมะนาวถึงขณะนี้ยังไม่มีการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีที่ดิน 27 ไร่ ติดถนนเทียมร่วมมิตร ปรับพื้นที่ปลูกกล้วยและมะม่วง
ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ บริเวณแยกเสนานิเวศน์ ทั้ง 2 ฝั่งถนน ได้ปรับที่ดินกว่า 300 ไร่ ทำการเกษตรกรรมผสมผสานและปลูกต้นมะม่วงหลายสายพันธุ์
ด้านถนนแจ้งวัฒนะมีหลายแปลงที่มีการปรับหน้าดิน เช่น บริเวณสะพานข้ามแยกทางเข้าเมืองทองธานี มีปรับหน้าดินปลูกต้นมะพร้าว ,ที่ดินด้านข้างและฝั่งตรงข้ามกับเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เริ่มมีการถมดิน และที่ดินใกล้ห้าแยกปากเกร็ด มีขึ้นป้ายประกาศขาย และให้เช่าอีกหลายแปลง