แอสเซทไวส์ มองปี 65 อสังหาฯ ไทยฟื้นตัวรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ บวกกับภาคเอกชนอัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อ เตรียมเปิดตัว 7 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่า 12,400 ล้าน ตั้งเป้าโกยยอดขายปีนี้กว่า 10,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยในปี 65 นี้มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นแรงลมส่ง นอกจากนี้คาดว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายแห่งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยบรรยากาศแบบนี้ แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการคว้าโอกาสขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ และเชื่อมต่อความสุขสู่ทุกกลุ่มลูกค้า โดยแอสเซทไวส์จะเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมฯ 5 โครงการ และเพิ่มพอร์ตโครงการบ้านอีก 2 โครงการ โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียมฯ 60% และบ้าน 40%
“จากประสบการณ์ ความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า และการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ผนวกกับสถานการณ์ปัจจุบันในยุค New Normal ทำให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน ทำให้เราตัดสินใจปรับเพิ่มพอร์ตการพัฒนาโครงการบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์อุปสงค์ที่ขยายตัวในตลาด”
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 65 ที่ผ่านมา ASW ได้ประกาศจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมานานกว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อพัฒนาโครงการแรกแอทโมซ บางนา มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท และเสริมแกร่งให้พอร์ตของบริษัท ด้วยการเข้าซื้อคอนโดมิเนียมบนทำเลทองใจกลางรัชดา – สุทธิสาร
นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการเปิดตัวเหรียญ Popcoin ซึ่งเป็น Smart Marketing Platform Entertainmerce ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Group, บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด สะท้อนมุมมองความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจและการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ASW ยังมุ่งสู่เทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Health ด้วยการร่วมมือกับ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วย Health Station Facility ที่ออกแบบเพื่อการดูแลสุขภาพครบวงจร พร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า แอสเซทไวส์ ยังมีแผนจับมือกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด หรือ BHS ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องในด้านผู้สูงอายุทั้งหมด เพื่อเปิดศูนย์ REHAB ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นศูนย์บริการประเมิน รักษา และ ฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งในรายละเอียดทางบริษัทจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆ นี้
“จากความมุ่งมั่นขยายธุรกิจอสังหาฯ ที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ประกอบกับการมุ่งมั่นค้นหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ ทำให้เราเชื่อว่า ปี 65 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจของแอสเซทไวส์ โดยเรามุ่งมั่นไต่ระดับความแข็งแกร่งขององค์กร ด้วยเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน”