สัมภาษณ์พิเศษ
วิมลวรรณ จันทะคาม
เดอะมอลล์ ย้ำโรดแมป 5 ปี เดินหน้าทุ่ม 2 หมื่นล้านบาท ปั้นเดอะมอลล์โฉมใหม่ สู่ Future Retail เดินหน้ารีแบรนด์ดิ้ง สาขาบางแค บางกะปิต่อเนื่อง ก่อนส่งกูร์เมต์ มาร์เก็ตลุยโตนอกห้าง พร้อมกางแผนการตลาดยุคโควิด ที่ต้องเตรียมความพร้อมรอบด้านมากกว่า 1 แผนงาน
วันที่ 28 กันยายน 2564 หลังการประกาศรีแบรนด์ดิ้งโฉมใหม่ของกลุ่มเดอะมอลล์ ภายใต้งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยนำร่องสาขาแรก เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วานไปเมื่อปี 2563 พร้อมๆ กับเดินหน้ายกเครื่องกูร์เมต์ มาร์เก็ต สู่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต โฉมใหม่สู่ WORLD CLASS GOURMET DESTINATIO ประชาชาติธุรกิจได้ร่วมสัมภาษณ์ “อัจฉรา อัมพุช” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ถอดแนวคิดความสำเร็จและแผนงานจากนี้
ปั้น Future Retail มิติใหม่ค้าปลีกไทย
“อัจฉรา อัมพุช” เริ่มต้นอัพเดทแผนงานปั้นค้าปลีกของกลุ่มเดอะ มอลล์ สู่เป้าหมาย Future Retail ในอนาคตว่า หลังบริษัทประสบความสำเร็จในแวดวงค้าปลีกปีนี้ ด้วยการคว้า 4 รางวัลยิ่งใหญ่แห่งปี RETAIL ASIA AWARD 2021 จากการตัดสินผลงานการสร้างสรรค์โครงการ และมีผลแห่งความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยสามารถชนะผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 200 โครงการ จาก 15 ประเทศทั่วเอเชีย
ตอกย้ำความสำเร็จการรีแบรนดิ้งเดอะมอลล์ สู่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว” ไม่ว่าจะเป็น MALL OF THE YEAR, BRAND TRANSFORMATION OF THE YEAR และ STORE OF THE YEAR รวมถึงอีก 1 รางวัลอันทรงเกียรติจากความสำเร็จของการปรับโฉม กูร์เมต์ มาร์เก็ต สยามพารากอน ที่สุดของซูเปอร์มาร์เก็ตมาตรฐานระดับโลก กับรางวัล SUPERMARKET OF THE YEAR
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวการเปิดตัวแพลตฟอร์ม M ONLINE และ GOURMET MARKET THAILAND ให้กับลูกค้าให้สามารถซื้อสินค้าได้เหมือนกับการช็อปปิ้งในห้างฯโดยตรง ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยต้องการเดินหน้าสู่ดิจิตอลคอมเมิร์ซ หรือ การขายผ่านออนไลน์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ปีกับการรุกช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิตอล 5.0 นำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ในตลาดค้าปลีกเป็นครั้งแรกในประเทศไทยแบบบูรณาการ
เดินหน้ารีแบรนด์ดิ้งโฉมใหม่ต่อเนื่อง
จากออนไลน์ต่อเนื่องที่การยกเครื่อง รีโนเวตศูนย์การค้าโฉมใหม่ในคอนเซ็ปต์ไลฟ์สโตร์ ภายใต้งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท ตามแผน 5 ปี (2562-2566) ล่าสุดความคืบหน้าการปรับโฉม “เดอะมอลล์ ท่าพระ” สู่โฉมใหม่ “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ” ที่ใช้งบรีโนเวตไปกว่า 1,500 ล้านบาท ว่า หลังนำร่องเปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมาบางส่วน พบว่า และหากไม่มีอะไรผิดพลาด กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 นับเป็นแห่งที่ 2 ต่อจาก “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน” ที่นำร่องเปิดให้บริการไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
“ทั้งเดอะมอลล์ ท่าพระ และงามวงศ์วาน มีอายุกว่า 30 ปีดังนั้นการยกเครื่องดังกล่าวถือเป็นการปรับโฉมใหม่ของศูนย์ ที่เชื่อมโยงเอาส่วนของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเอาไว้ด้วยกัน เป็นการเชื่อมประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สะดวก ง่าย รวดเร็ว และหลากหลาย ผ่านแต่ละชั้นที่มีการตกแต่งที่ต่างกันออกไป เน้นเจาะไปทั้งกลุ่มวัยเริ่มทำงาน ครอบครัว ผู้สูงอายุ และย่านโดยรอบ”
ไม่เพียงทั้ง 2 สาขาข้างต้น หากแต่คอนเซ็ปต์ใหม่ยังถูกวางโรปแมปการลงทุนต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ด้วยการเตรียมยกเครื่อง เดอะมอลล์ บางแค และเดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นลำดับถัดไป ภายใต้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งหัวหอกสำคัญนอกจากการปรับโฉมปั้นแม็กเน็ตทั้งกูร์เมต์ มาร์เก็ต โฉมใหม่ ภาพลักษณ์ใหม่แล้ว 3 โซนหลักยอดนิยมอย่าง โซนพาวเวอร์มอลล์ ,สปอร์ตมอลล์ และบิวตี้ฮอลล์ ก็จะถูกยกมาเป็นแม็กเน็ตเพื่อในการปลุกกำลังซื้อในย่าน ขณะที่ศูนย์ฯอื่นๆที่เหลือ จะถูกทยอยรีแบรนด์ในด้านต่างๆในอนาคต ตามความต้องการของลูกค้า
“แม้จะอยู่ในช่วงของสถานการณ์โควิดแต่เราก็ไม่ชะลอแผนงานแต่อย่างใด หากแต่จะใช้จังหวะนี้การปรับโฉม เดินหน้ากลยุทธ์ใหม่ เพื่อรับสถานการณ์มากกว่า”
อย่างไรก็ดีนอกจากการรีแบรนด์ดิ้งศูนย์แล้ว ยังมีส่วนของ “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” ที่ทางค่ายบอกว่าด้วยศักยภาพที่มีพร้อมที่จะต่อยอด ซูเปอร์มาร์เก็ตของบริษัท ออกไปเติบโตนอกห้างฯในรูปแบบต่างๆ โดยจะมีการลดขนาดพื้นที่ลงเหลือราว 700-1,500 ตร.ม. เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงเบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนงแผนการดำเนินงานและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Future Retail ที่ครอบคลุมทุกช่องทาง
ปี 65 รุกออนไลน์-ออฟไลน์ เต็มสูบ
ไม่เพียงเท่านี้การระบาดของโควิด-19 ยังเข้ามาดิสรัปรูปแบบการตลาดของทางกลุ่ม ในการสร้างสรรค์แคมเปญ โปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งอีเวนต์ให้เปลี่ยนไป โดย “อัจฉรา” บอกว่า “โควิดทำให้เราต้องเริ่มบาลานซ์ความเสี่ยงในแง่กิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะเรื่องแผนงานที่เตรียมไว้ในช่วงไตรมาสสุดท้าย จากเดิมก่อนโควิดจะมีเพียงแผนงานเดียว และเมื่อถึงเวลาก็ทุ่มให้กับแผนนั้นเต็มที่ เพื่อปลุกยอดขายให้มากที่สุด แต่ทว่าการระบาดของโควิดแผนงานเดียวกลับไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ที่อาจจะพลิกผันได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีทั้งแผน A แผน B ไว้คอยสำรอง และหากเกิดสถาการณ์ฉุกเฉินขึ้นแบบกระทันหันจริงๆบริษัทก็มีแผน Extra ที่พร้อมใช้ฉุกเฉินเพิ่มขึ้นมา และนั่นคือการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับตลาด”
และภาพของการแข่งขันทั้งหมดจะกลับมาในปี 2565 โดยจะได้เห็นการแข่งขันของกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น การจัดโปรโมชั่นอีเวนต์ต่างๆ ภายใต้เงื่อนไขสำคัญว่าการระบาดของโควิดจะต้องไม่กลับมาอีกระลอก เช่นเดียวกับแผนงานของบริษัทที่ถูกวางไว้อย่างรัดกุม หลากหลาย ในการพลิกกำลังซื้อให้กลับมาอีกครั้งโดยเริ่มบุกหนักตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่ต้องบอกว่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแน่นอน
ท้ายที่สุด แม่ทัพเดอะมอลล์ ยังเชื่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะกลับมาอย่างแน่นอน แต่คงต้องค่อยๆใช้เวลาในการเติบโต สร้างความเชื่อมั่นทั้งจากประชาชน ผู้ประกอบการ และนักลงทุน