ก.ก.จี้ รบ.แก้ปัญหาสินค้า-หมูแพง หลังปรับขึ้นราคาแบบก้าวกระโดด สวนทางค่าแรงต่ำ ด้าน ‘สุชาติ’ แจงสินค้าปรับขึ้นตามสภาวะต้นทุน ยัน ก.แรงงาน เดินหน้าสร้างงาน เพิ่มทักษะ ช่วย ปชช.ให้มีรายได้เพิ่ม
เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 20 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าแพงสวนทางกับค่าจ้าง ประชาชนกำลังลำบาก แต่รัฐบาลกลับมาย้ายพรรค แย่งเก้าอี้ แย่งโควต้า ทั้งที่ควรมาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพราะตอนนี้สินค้าทุกอย่างมีราคาแพงขึ้นหมด โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู ซึ่งปรับขึ้นราคาแบบก้าวกระโดดมาก จนส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ชนิดอื่นปรับขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ก็ทยอยปรับราคาขึ้นตาม แต่ปรากฏว่าค่าแรงหรือเงินเดือนยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นเลย จึงอยากถามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการหรือแนวทางแก้ปัญหาอย่างไรและจะประกาศใช้เมื่อใด อีกทั้งตั้งแต่เกิดโควิด ประชาชนค้นหาคำว่า “เงินกู้ เงินด่วน” ผ่านกูเกิลสูงมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่ามีรายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย จนต้องไปกู้หนี้นอกระบบ กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ดังนั้น รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด ค่าระวางเรือปรับขึ้นจึงทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องปรับขึ้นตามสภาวะของต้นทุนทางการค้า ส่วนสินค้าอุปโภคและบริโภคปรับราคาขึ้นลงตามราคาการส่งเสริมการขายหรือโปรโมชั่น ส่วนสินค้าเกษตรก็ปรับขึ้นลงตามฤดูกาลและสถานการณ์ เช่น น้ำท่วมหรือภัยแร้ง ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาจำหน่าย เช่น ราคา ไข่ไก่ ส่วนเนื้อสัตว์ เนื้อสุกร ทางคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา กำหนดให้เป็นสินค้าควบคุม นอกจากนี้ ยังได้จัดสายตรวจติดตามสถานการณ์ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้า ส่วนค่าครองชีพหรือค่าแรงที่ยังไม่ได้ปรับนั้นส่วนที่เกี่ยวพันกับกระทรวงแรงงาน ทางคณะกรรมการไตรภาคี 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้าง และราชการ ตลอดปี 2564 ก็ได้มีการประชุมร่วมกันและจะนำข้อมูลมาประมวลผลในเร็วๆ นี้
นายสุชาติกล่าวว่า ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกระทรวงแรงงานช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ก็ได้ลดการจ่ายเงินสมทบ รวมทั้งที่ผ่านมาช่วยเหลือโครงการ ม.33 เรารักกัน คนละ 6 พันบาท โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น ส่วนการแก้ปัญหารายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายนั้น ทางกระทรวงแรงงาน ทำอยู่อย่างต่อเนื่องคือการอัพสกิลและรีสกิลเพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีทักษะมีฝีมือและค่าแรงเพิ่มขึ้น เราพยายามทำทุกอย่าง สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่อยากเห็นมีรายได้เท่าเดิม ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาล เข้าไปปราบปรามดูแลตรงจุดนี้ ส่วนหนี้ของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยไม่ให้เสียดอกเบี้ย คงดอกเบี้ยเป็นศูนย์ไว้ ส่วนหนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครู ขณะนี้กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาทั้งส่วนราชการและประชาชน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่