วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565
การเคหะแห่งชาติมีภารกิจสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วประเทศ ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างมากขึ้นโดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระลอกใหม่จากสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่งอาจสร้างผลกระทบครั้งใหม่ต่อรายได้และการประกอบอาชีพของประชาชน และส่งผลต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตนเอง
ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติ มี “โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” เป็น “เครื่องมือทางการเงิน” ที่สำคัญในการช่วยลูกค้าที่ซื้อบ้านของการเคหะแห่งชาติ แต่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน สามารถขอสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าว โดยจะมีคณะกรรมการบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัย (คบส.)ของการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อกับลูกค้า เพื่อให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางเป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมยิ่งขึ้น
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารการให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย (คบส.) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ได้พิจารณาเห็นชอบอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปีงบประมาณ 2565 (เดือนมกราคม-กันยายน 2565) ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าทั่วไป ปีที่ 1-4 อัตราดอกเบี้ย 1.5% ปีที่ 5-7 อัตราดอกเบี้ย 2.5% ปีที่ 8-40 อัตราดอกเบี้ย 3.75% สำหรับกลุ่มเปราะบาง ปีที่ 1-5 อัตราดอกเบี้ย 1.5% ปีที่ 6-7 อัตราดอกเบี้ย 2.5% ปีที่ 8-40 อัตราดอกเบี้ย 3.75% โดยระยะเวลาการทำสัญญาเช่าซื้อ 40 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อ ไม่เกิน 70 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -30 กันยายน 2565
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติ ได้มีการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเช่าซื้อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างตรงจุด รวมทั้งให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป 4 ปีแรก เพียง 1.5% และกลุ่มเปราะบางขยายเป็น 5 ปีแรก เพียง 1.5%
เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางให้สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติได้ง่ายขึ้นในสถานการณ์ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอยู่ในขณะนี้
“การเคหะแห่งชาติพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งอุปสรรคที่สำคัญส่วนใหญ่คือ การเข้าไม่ถึงสินเชื่อของสถาบันการเงิน โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับ
ผู้มีรายได้น้อย จึงมุ่งมั่นเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาและตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ พร้อมสร้างความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการเคหะแห่งชาติตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” นายทวีพงษ์ กล่าวท้าย