วันอาทิตย์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
เมื่อกล่าวถึง NETFLIX คนก็จะนึกถึงสตาร์ทอัปสตรีมมิ่ง(Streaming)ชื่อดังระดับโลก ที่มีคนรู้กันคร่าวๆว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ Reed Hasting ต้องจ่ายค่าปรับกว่า40เหรียญให้ Blockbuster เพราะคืน วิดีโอ Apollo 13 ช้า จึงทำให้เขาหาทางทำร้านเช่าวิดีโอแบบไม่มีค่าปรับขึ้นมาบ้าง ณ.เวลานั้น ร้านเช่าวิดีโอที่มีหน้าร้านเป็นดั่งราชา เกือบทุกคนต้องเคยโดนค่าปรับแสนแพงในการคืนวิดีโอล่าช้า และต่อมาการดูหนังผ่านดีวีดีที่นิยมกันมากขึ้นก็แทบจะเป็นอะไรที่เจ๋งสุด ๆ และในปี ค.ศ.1997 การยืมคืน และค่าปรับดูเป็นเรื่องที่ยอมรับกันทั่วไป แต่ Marc Randolph กลับไม่ชอบใจที่ผู้ชมต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายกับการเช่าวิดีโอ จึงเกิดไอเดียใหม่บางอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นไอเดียง่าย ๆ คือการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตเพื่อการเช่าหนัง และด้วยความร่วมมือของ Reed Hastings ในฐานะนักลงทุนหลัก และเขาเป็นซีอีโอ ทั้งคู่จึงร่วมกันก่อตั้ง NETFLIX ขึ้นมา
กำเนิด NETFLIX เปลี่ยนคำว่าไม่ให้กลายเป็นเวิร์ก ผู้เขียน Marc Randolph (มาร์ก แรนดอล์ฟ)เจ้าของไอเดียเเละซีอีโอคนแรกของ NETFLIX ผู้แปล โสภณ ศุภมั่งมี เป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งและเบื้องลึกเบื้องหลังไอเดียธุรกิจสู่สตาร์ตอัประดับโลกที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้มาก่อน Marc Randolph ได้ถ่ายทอดจากประสบการณ์ที่เผชิญมาด้วยตัวเอง ทำให้เห็นว่าเส้นทางไอเดียสู่ความจริงของ Netflix นั้นไม่ได้ง่าย และรวดเร็ว ตลอดเส้นทางทางเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรค และ Netflix นั้นเริ่มต้นจากไอเดียเล็กๆที่ไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยากลองทำ เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ แม้คนรอบข้าง หรือแม้แต่ภรรยาเขาก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้
Marc Randolph ได้เล่าถึงการก่อตั้ง Netflix ที่ซับซ้อนมากกว่าที่คนทั่วไปคิด ในเล่ม ผู้เขียนได้ถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่เริ่มตั้งไอเดียคือประมาณสิบห้าเดือนก่อนเปิดตัว จนถึงเข้าตลาดหุ้นในปี 2002 คือสี่สิบเก้าเดือนหลังเปิดตัว โดยเริ่มตั้งแต่การเริ่มต้นของกลุ่มคน8คน ที่ต้องไปขอระดมทุนจากเพื่อนและครอบครัว ทำงานหามรุ่งหามค่ำ การแก้โค้ดที่ไม่มีวันจบ ประชุมในโรงแรมซอมซ่อ ใช้ตู้เซฟของธนาคารเก่าเก็บดีวีดี การรอดพ้นจากช่วงฟองสบู่แตก การโดนคู่แข่งดูถูก เกือบถูกซื้อกิจการหลายครั้ง เป็นไก่รองบ่อน และต้องเผชิญกับความผันผวนไม่แน่นอนตลอดเส้นทาง เรียกว่าจนกว่าจะเป็นบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหุ้นและยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ได้ก็หนักหนาสาหัสทีเดียว
การเล่าเรื่องของเขาเต็มไปด้วยสีสัน และชวนติดตาม ความท้าทาย ความลำบาก การเปลี่ยนแปลง ความผิดหวัง เรื่องหักมุม บทเรียนมากมายที่มีทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตา จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จ และมีสมาชิกมากกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก และเป็นบริษัทสตาร์ตอัปที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในศตวรรษที่ 21
หนังสือเล่มนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำสตาร์ทอัปหรือธุรกิจด้วยตนเอง เพราะนอกจากความสนุกและตื่นเต้นจากเรื่องราวแล้ว ยังได้เห็นความมหัศจรรย์ของไอเดีย ที่เป็นจริงได้โดยกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อเหมือนกัน มีเป้าหมายเดียวกัน และพร้อมจะทุ่มเททุกอย่าง ทั้งกายและใจสร้างไอเดียในหัวให้เป็นจริง และนอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ ผู้ที่มีไอเดียอยู่แล้วเดินหน้ามุ่งสร้างไอเดียให้เป็นความจริง อย่างที่ Marc Randolph บอกในหนังสือเสมอว่า ไม่มีใครรู้อะไรเลย และเราไม่มีทางรู้เลยว่าไอเดียในหัวจะกลายเป็นอะไรได้บ้างถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำ
หนังสือจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย ซีเอ็ดยูเคชัน ราคาเล่มละ 375 บาท
ถ่ายทอดความรู้สึกผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
ในแง่มุมสนุกสนาน และสร้างสรรค์
จริงครึ่งบรรลัยครึ่ง : Hyperbole and a Half ผู้เขียน Allie Brosh (แอลลี บรอช) ผู้แปล นพ. ก้าวหน้า สุขสุชะโน หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้เขียนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ที่ได้ถ่ายทอดความคิดความรู้สึก มุมมองของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าให้ผู้อื่นได้เข้าใจ และเห็นภาพชัดเจน โดยการถ่ายทอดได้อย่างสนุกสนาน และมีภาพประกอบมากกว่า 400 ภาพ วาดโดยผู้เขียนเอง เนื้อหาครึ่งหนึ่งเป็นการรวบรวมจากเว็บบล็อก Hyperbole and a Half และอีกครึ่งหนึ่งเขียนขึ้นใหม่จาก “ประสบการณ์การเรียนรู้ที่โคตรห่วย” ของเธอ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตวัยเยาว์สุดเพี้ยน การรับเลี้ยงน้องหมาที่มีปัญหาทางจิต การสำรวจความคิดความรู้สึกของตนเอง และการก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต รวมถึงโรคซึมเศร้าของเธอเอง หนังสือเล่มนี้”บิล เกตส์” แนะนำให้อ่าน เป็นหนังสือยอดเยี่ยมประจำปีของ Goodreads สาขาตลกขบขัน (Best Humor) และหนังสือขายดีติดอันดับจาก New York Times Bestseller และ NPR นาน 31 สัปดาห์ มียอดขายกว่าสามแสนเล่มในเดือนแรก ราคาเล่มละ 425 บาท
เทคนิคการขายสินค้าทุกชนิดให้ปัง
บนแพลตฟอร์ม Lazada & Shopee
เคล็ดลับที่ร้านขายดีใน Lazada & Shopee ไม่อยากบอก ผู้เขียน ชวพล ฟ้าอำนวยผล เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นจากการรวบรวมและประสบการณ์การทำงานจริงของผู้เขียน ในฐานะอดีต Head of Content ที่ Lazada และผู้เชี่ยวชาญการขายบน Marketplace ภายในเล่มรวบรวมกลยุทธ์ในการขายบน 2 แพลตฟอร์มดังกล่าวแบบที่เรียกว่าอ่านง่ายเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ถ่ายทอดในเล่มถือเป็นสูตรสำเร็จรูปที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที และเป็นเนื้อหาที่อัปเดตทั้งใน Lazada และ Shopee คือเป็นเวอร์ชันล่าสุด ตัวอย่างเช่น สิ่งที่จำเป็นต้องศึกษาและเรียนรู้ก่อนการขาย วิธีสมัครเปิดร้านแบบสมบูรณ์แบบ สอนการอัปโหลดสินค้าต่างๆ การทำ Marketing และตกแต่งหน้าร้านให้ขายสุดปัง เทคนิคการทำ Promotion อย่างไรให้ได้ผล การซื้อโฆษณาเพิ่มยอดขายด้วย Lazada Ad และ Shopee Ad ตลอดจนถึงเทคนิคการตอบแชดให้เป็น และให้ได้ออร์เดอร์เพิ่มจนส่งไม่ทัน หนังสือเล่มนี้ อ่านได้ทั้งมือใหม่หัดขาย และผู้ที่ขายอยู่แล้วและต้องการขายให้ดีขึ้น หนังสือราคา 289 บาท
ฝึกเจริญสติ ภาวนา และปรับวิธีคิด
สามารถเปลี่ยนสมองและตนเองได้
Good Morning, I Love You วิธีฝึกสติ และปรับสมอง เปลี่ยนวิธีคิด เพิ่มความเมตตากรุณา เพื่อความสงบสุข แจ่มชัด และเบิกบาน ผู้เขียน Shauna Shapiro, PhD. (ชอว์นา แชพิโร, ดร.) ผู้แปล ภรณี ภูรีสิทธิ์ มีคำกล่าวที่ว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ มันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว คําถามที่สําคัญคือ คุณจะรับมือกับมันอย่างไร” คำถามนี้จะช่วยให้หาวิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่การจมจ่อมอยู่กับความทุกข์หรือเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หนังสือเล่มนี้จะสอนการฝึกเจริญสติ การภาวนา การปรับเปลี่ยนวิธีคิด และการฝึกตนเพื่อปรับสมอง เพราะสิ่งที่เราฝึกฝนเป็นประจำจะสามารถเปลี่ยนสมองของเราได้ จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในระบบประสาทวิทยา สมองของเราเปลี่ยนแปลงได้เพื่อตอบสนองต่อประสบการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีความใส่ใจ สายใยสมองจะส่งผ่านสัญญาณ และพัฒนาให้เกิดความเชื่อมโยงในระบบประสาท หนังสือเล่มนี้จะช่วยสอนให้คุณรู้วิธีที่จะรักษาความใส่ใจ เพื่อกระตุ้นระบบเครือข่ายในสมองเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน มีทั้งเนื้อหาและแบบฝึกปฏิบัติที่มีข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์และงานวิจัยรองรับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดีแก่ชีวิตของเรา เรียนรู้วิธีการเสริมสร้างความเมตตากรุณาและความรัก เพื่อการดำรงอยู่ในโลกใบนี้อย่างเป็นสุข ด้วยการเสริมสร้างความงอกงามของชีวิตภายใน ราคาเล่มละ 220บาท
ใช้แพสชันเป็นพรสวรรค์สู่ความสำเร็จ
เล่าเรื่องเกี่ยวกับแพสชันได้ครบถ้วนที่สุด
ฉันหมด Passion หรือแค่ยังหามันไม่เจอ ผู้เขียน Brad Stulberg,Steve Magness ผู้แปลแป้ง ไตรรัตนานุสรณ์ พลิกมุมมองใหม่ให้ Passion เป็นดั่งพรสวรรค์ แล้วสร้างความสำเร็จให้ชีวิต คนเราต้องตามหาแพสชันให้เจอ และต้องทุ่มเทกับแพสชันให้เต็มที่ แค่พร่ำบอกว่า “ตามหา” หรือ “ทุ่มเท” ใครก็พูดได้ แล้วถ้าหาแพสชันไม่เจอหรือทำแล้วหลงทางล่ะ ชีวิตของเราจะเดินต่อไปทางไหนดี “Brad Stulberg” อดีตที่ปรึกษาดาวรุ่งจากทำเนียบขาว และ “Steve Magnesss” อดีตนักวิ่งอัจฉริยะ เคยไล่ตามแพสชันจนประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตก็พลิกผัน แพสชันที่มีกลับย้อนมาทำร้าย กว่าจะตั้งหลักได้ก็เกือบสายเกินไป Brad และ Steve ได้หยิบประสบการณ์ส่วนตัวมารวมกับงานวิจัยใหม่ๆ และไปสัมภาษณ์เหล่าคนดังที่ทั้งได้ดีและเคยล้มไม่เป็นท่า จนออกมาเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องแพสชันได้ครบถ้วนและคมคายที่สุดเล่มนี้ ลองบ่มเพาะความฝัน ความรัก หรือความหลงใหล ให้กลายเป็นแพสชัน แล้วค่อยๆ ใช้เวลา เจียระไนแพสชันนั้นให้งดงามไปพร้อมกับหนังสือเล่มนี้ หนังสือราคา 250 บาท